“เด็กแคมป์” ตอนจบ : เมื่อคนเกือบไร้ตัวตนต้องเผชิญปัญหาที่ไม่เป็นดั่งความฝัน
ภาคต่อของ “เด็กแคมป์” ตอนที่หนึ่ง : ประวัติศาสตร์และการแสวงหาชีวิตวิไลซ์ของเด็กแคมป์ ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเด็กแคมป์ผ่านมุมมองและความสนใจของผู้เขียนทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และการเข้ามาของเด็กแคมป์ในฐานะผู้ติดสอยห้อยตามบิดามารดาที่เข้ามาแสวงหาชีวิตใหม่ในประเทศปลายอย่างอย่างประเทศไทย
“เด็กแคมป์” ตอนจบ : เมื่อคนเกือบไร้ตัวตนต้องเผชิญปัญหาที่ไม่เป็นดั่งความฝัน ตอนนี้จึงพยายามรวบรวมปัญหาที่เด็กแคมป์จะต้องเผชิญในฐานะของผู้ “แสวงหาความศิวิไลซ์” ที่ไม่ใช่บ้านเกิดของพวกเขา ทั้งเผชิญกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงสิทธิและการคุ้มครองเด็ก การถูกแยกจากครอบครัวและปัญหาสุขอนามัย โดยเฉพาะปัญหาการเข้าถึงการศึกษาที่ถือว่าเป็นความฝันหนึ่งของเด็กแคมป์ที่นำไปใกล้ความจริง “ชีวิตวิไลซ์” มากขึ้น
ปัญหาของ “เด็กแคมป์” ที่จากบ้านมุ่งสู่แดนวิไลซ์
เด็กในแคมป์คนงานก่อสร้าง (ภาพ: UNICEF)
ปัญหาและความท้าทายของบุตรแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยสามารถจําแนกออกเป็นหลากหลาย สาเหตุ อันประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐาน การคุ้มครองเด็ก การจัดทําเอกสาร การถูกกีดกันความรุนแรงใน ครอบครัว สุขภาพ การศึกษา ซึ่งจากการศึกษาวิจัยของ Save the Children (2014) มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- โครงสร้างพื้นฐาน ที่พักคนงานถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของชีวิตของคนที่มาทํางานในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวสําหรับคนงานและครอบครัวของพวกเขาและความคงทนของสถานที่เหล่านี้ยังคง น้อยและมีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับขนาดของโครงสร้าง การก่อสร้างที่พักพิงชั่วคราว เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมอาคารและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ แต่มี รายงานว่าหลายบริษัทหรือนายจ้างจํานวนมากประสบปัญหาในการสร้างที่อยู่สําหรับแรงงาน มีค่าใช้จ่ายสูงและมีความซับซ้อนในการดําเนินงานโครงสร้างของที่พักจึงมีผลอย่างมากต่อการพัฒ. นาขั้นพื้นฐานและความเป็นอยู่ของเด็กในภาพรวม พ่อแม่ของเด็ก ๆรายงานว่าห้องอาบน้ำและห้อง สุขามีไม่เพียงพอและไม่มีการแยกเพศและแออัดเกินไป นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงสุขอนามัยและน้ำไม่เพียงพอต่อการทําความสะอาด (Tilleke and Gibbind, 2017)
- การเข้าถึงสิทธิและการคุ้มครองเด็ก เด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่เผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้านสิทธิและการคุ้มครองเด็ก การถูกเลือกปฏิบัติ การถูกแยกจากพ่อแม่ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัวและเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายจากคนใกล้ชิด แนวโน้มปัญหาที่เกิดขึ้นและเห็นได้อย่างชัดเจนคือการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ซึ่งมักจะกินเวลายาวนานเกินกว่าครอบครัวจะแบกรับ เงื่อนไขนี้ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ท้าทายในการเข้าถึงสิทธิและคุณภาพชีวิตของบุตรหลานแรงงานข้ามชาติอย่างมาก
- การถูกแยกจากครอบครัว ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในกลุ่มของแรงงานข้ามชาติทั่วโลก (Jampaklay, 2012) เมื่อพ่อและแม่ย้ายถิ่นอาจจะไม่สามารถพาลูกไปด้วยได้ดังนั้นอาจจะต้องพำนักกับญาติหรือสมาชิกในครอบครัวส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทั้งทางด้านกาย จิตและสังคมของบุตรหลานแรงงานย้ายถิ่น บางกรณีอาจจะถูกทำร้ายร่างกายตั้งแต่เขย่าตัว ผลักและปาข้าวของใส่ ทำให้เด็กกลัวเมื่อตนเองถูกกระทำหรือเห็นคนอื่นกระทำ
- ด้านสุขภาพ บุตรหลานของแรงงานต่างด้าวไม่ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพของบุตรหลานตนเองมากนั้น โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน พ่อแม่บางคนไม่ทราบว่าลูกของตนเองฉีดวัคซีนไปเมื่อใดและยังขาดความรู้ว่าต้องพาลูกตนเองไปฉีดวัคซีนที่ใด เกือบครึ่งหนึ่งของแรงงานข้ามชาติให้ข้อมูลว่าลูกของตนเองไม่มีบัตรผู้ติดตามแรงงานข้ามชาติเมื่อไม่มีเอกสารแล้วจึงส่งผลกับการดำเนินการเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพด้วย
- ด้านการศึกษา ในระดับนโยบายพบว่าประเทศไทยได้ผ่านนโยบายทางด้านการศึกษาที่สามารถทําให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ (United Nations Children Fund) ซึ่งจะ ได้รับการศึกษาโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ยังคงเป็นที่ทราบกันดีว่าในทางปฏิบัติยังคงมีอุปสรรค บางอย่างเป็นตัวขัดขวางในการเข้าถึงการศึกษาของเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กข้ามชาติและเด็ก ไร้สัญชาติ ประกอบไปด้วย การเตรียมความพร้อมในการเข้าเรียน ที่มักจะพบการเลือกปฏิบัติจาก เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ในขณะที่การเข้าโรงเรียนเด็ก ๆ ส่วนใหญ่มักจะเข้าศึกษาโรงเรียนในชุมชน เด็กกว่าร้อยละ 40 ไม่สามารถเข้าเรียนได้เนื่องจากไม่มีเงินเพียงพอสําหรับค่าใช้จ่ายและย้ายที่อยู่ บ่อยเกินกว่าที่จะเข้าเรียนได้
เมื่อปลายทางแห่งความฝันคือ “การศึกษา” ที่อาจจะเอื้อมไม่ถึง
การศึกษาเรื่อง “เส้นทางสู่อนาคตที่ดีกว่า บทวิจารณ์เรื่องการศึกษาสําหรับเด็กข้ามชาติในประเทศ ไทย” โดย Save the Children (2014) ความก้าวหน้าในการดําเนินการเห็นได้จากการเข้าเรียนของเด็กข้าม ชาติในโรงเรียนไทยเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่มีการลงมติเห็นชอบนโยบาย “การศึกษาเพื่อปวงชน” ใน ปี พ.ศ. 2542 และมติคณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2548 กฎหมายไทยระบุว่าเด็กทุกคนไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือ สถานะใดก็ตามมีสิทธิ์ที่จะได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ในส่วนของเด็กข้ามชาติจํานวนร้อยละ 5 ที่เข้าเรียนในศูนย์การเรียนรู้ไม่สามารถตอบสนองความ ต้องการที่ไร้เสถียรภาพและทรัพยากรที่มีจํากัดส่งผลให้เด็กข้ามชาติไม่ได้รับการรับรองใด ๆซึ่งถือว่าเป็นการ จํากัดทางเลือกและโอกาสในการทํางาน เด็กข้ามชาติส่วนใหญ่ที่เข้าเรียนในศูนย์การเรียนรู้มิได้รับการรับรอง ใดๆซึ่งเป็นการจํากัดทางเลือกและโอกาสในการทํางานในอนาคต ซึ่งแม้ว่าจะมีจํานวนเด็กข้ามชาติที่เข้ามา เรียนในโรงเรียนไทยเพิ่มมากขึ้นก็ยังคงมีอุปสรรคในการลงทะเบียนเรียนและการควบคุมจํานวนเด็กข้ามชาติ ในสถาบันเหล่านี้ นอกจากนี้การขาดข้อมูลเกี่ยวกับเด็กแรงงานข้ามชาติยังคงจํากัดด้านการเงิน อุปสรรคด้าน ภาษา การขาดความสม่ําเสมอในการใช้นโยบาย EFA การขาดความตระหนักถึงโอกาสทางการศึกษาของชุมชน รวมไปถึงความรู้สึกว่าถูกแบ่งแยกและการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริง ล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคที่เด็ก ๆจะต้อง เผชิญ
ห้องเรียนในแคมป์ก่อสร้าง (ภาพ: โพสต์ทูเดย์, 2557)
ปัญหาที่สําคัญอีกประการหนึ่งคือการออกจากโรงเรียนกลางคัน พบว่า เด็กข้ามชาติในโรงเรียนไทย ร้อยละ 67 เรียนเพียงระดับประถมศึกษาเท่านั้น ในขณะกลุ่มเด็กข้ามชาติที่เรียนจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอน ปลายมีน้อยกว่าร้อยละ 1 (สํานักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2556) อุปสรรคสําคัญที่สุดคืออุปสรรคทางด้าน ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนหากนักเรียนไม่เข้าใจสิ่งที่เรียนอาจจะมีแนวโน้มเข้าเรียนหรือไม่สามารถเรียนจนจบการศึกษาได้
“งานวิจัยของ Save the Children (2014) พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า กลุ่มแรงงานข้ามชาติให้ความสำคัญกับการส่งบุตรหลานเข้าเรียนในหลักสูตรที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน แต่กลับมีนักเรียนที่เป็นกลุ่มแรงงานข้ามชาติจำนวนน้อยมากที่สามารถเข้าเรียนได้”
ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะกำหนดนโยบายให้ความสำคัญด้านการศึกษากับเด็กต่างด้าว 2 ประเด็น คือ ด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้เด็กสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่และสนับสนุนให้เด็กเป็น “ส่วนหนึ่งของสังคมหรือชุมชน” แต่อย่างไรก็ตามจากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่านโยบายของภาครัฐบางส่วนยังคงคลุมเครือและเป็นปัญหาด้านการปฏิบัติ ขาดการศึกษาสถานการณ์อย่างละเอียดรอบคอบส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาและการขับเคลื่อน (สพลกิตติ์ สังข์ทิพย์, 2015)
ท้ายที่สุดแล้วการสนับสนุนด้านการเรียนรู้ของเด็กข้ามชาติโดนการส่งเสริมอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อให้สามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีมาตรฐาน โดยการให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพของบุตรหลานแรงงานข้ามชาติซึ่งถือว่าเป็นประเด็นสำคัญในการเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนช่วยระบบเศรษฐกิจระยะยาว ด้วยการสนับสนุนให้ให้บุตรหลานแรงงานข้ามชาติเข้าถึงโอกาสดังต่อไปนี้ (1) รวบรวมข้อมูลเด็กข้ามชาติที่ถูกต้อง ทันสมัย และเป็นระบบ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม (2) เพิ่มความตระหนักถึงโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาให้แก่บิดามารดาของเด็กและเยาวชนข้ามชาติ และประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงทางเลือกในการเข้าถึงการศึกษารวมไปถึงนโยบายและกำหนดการลงทะเบียนภาคการศึกษา (3) สนับสนุนและใช้ความคิดริเริ่มเพื่อลดอัตราการออกจากโรงเรียน และศูนย์การเรียนรู้ควรมีระยะเวลาที่ยืดหยุ่นเพื่อปรับปรุงโครงสร้างที่เหมาะสมกับเด็กที่มีปัญหาในการเข้าศึกษา (4) ส่งเสริมความพร้อมทางด้านภาษาไทยและสนับสนุนเด็กข้ามชาติที่เรียนในหลักสูตรการศึกษาของไทย (5) ส่งเสริมและขยายต้นแบบของการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและการศึกษานอกโรงเรียนสำหรับเด็กที่ต้องการทำงานและอายุเกินเกณฑ์สามารถเข้าเรียนเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคแก่เด็กที่มีพ่อแม่เป็นแรงงานข้ามชาติ
เอกสารอ้างอิง
เอกสารอ้างอิงภาษาไทย
- กอแก้ว วงศ์พันธ์. (2560). แรงงานพม่ากับความอคติทางชาติพันธุ์. สืบค้นจาก https://prachatai.com/journal/2007/09/14038.
- บุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์. (2560). การกำหนดหลักเกณฑ์การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย กรุงเทพฯ: กองบรรณาธิการประชาไท
- ปณิตา ศรศรี. (2557). แรงงานต่างด้าว: ความสำคัญและการบริหารจัดการ. นครราชสีมา: ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3.
- ประชาไท. (2560).แรงงานเด็กข้ามชาติในชุมชนที่ขนอม. สืบค้นจาก https://prachatai.com/journal/2016/02/64271
- ภัคสิริ แอนิหน. (2561). แรงงานต่างด้าว : การบริหารและการจัดการในประเทศไทย, วารสารศิลปะการจัดการ, 2(2), พฤษภาคม–สิงหาคม
- วราภรณ์ มนต์ไตรเวศย์. (มปป.). แรงงานต่างด้าวในภาคประมงกับความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม, วารสารดำรงวิชาการ
- สพลกิตติ์ สังข์ทิพย์. (2015). วิวัฒนาการของนโยบายการศึกษาที่เกี่ยวกับเด็กต่างด้าว. OJDE, 10(3), pp. 452-466.
- อดิศร เกิดมงคล. (2557). แรงงานข้ามชาติในสังคมไทย: สิทธิและสวัสดิการ. เชียงใหม่: ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
- Save the Children. (2014). เส้นทางสู่อนาคตที่ดีกว่า บทวิจารณ์เรื่องการศึกษา สําหรับเด็กข้ามชาติในประเทศไทย. กรุงเทพฯ
- World education USAID. (2556). สถานการณ์เด็กข้ามชาติ ปี 2556. กรุงเทพฯ
เอกสารอ้างอิงภาษาต่างประเทศ
- Anderson, A. A., (2013). The Community Builder’s Approach to a Practical Guide to Theory Development: Theory of Change (Vol. 2015). New York: The Aspen Institute Roundtable on Community Change.
- Argyris, C., & Schön, D. (1978) Organizational learning: A theory of action perspective, Reading, Mass: Addison Wesley Clark, H., & Anderson, A. A. (2004). Theories of change and logic models: Telling them apart. Paper presented at the America n Evaluation Association Conference., oath.org.pk.
- Colby, D. & Collin s, E. (2013). Fundamentals of Theory of Change. Act Knowlege Webinar: Fundament als of Theory of Change. 2013. Retrieved December 17, 2015, from http://www. theory of change.org/library/presentations/.
- Dana, H. T., & Clark, H. (2012, December 10, 2015). Theory of Change, Basics: a Primer on Theory of Change. Retrieved November 15, 2015, from www.actknowledge . org$$. Dana, H. T., & Clark, H. (2012). Intervention Logic and Theories of Change: What are they, how to build them and how to use them. Retrieved November 17, 2015, from http://www.theory of change.org/library/ presentations/.
- Dana, H., T. (2014). What’s Your Theory of Change. Retrieved from https:// www.2degreesnetwork.com/groups/2degrees community/resources/whats – your – theory -changel.
- Jampaklay, Aree, et al., (2012). Children Living apart from Parents due to Internal Migration (CLAIM), Institute for Population and Social Research Mahidol University,<http://www.ipsr.mahidol.ac.th/ipsr/Research/CLAIM/Download/CLAIM-ReportFinalReport.pdf>.
- Jones, H. (2011a). “A guide to monitoring and evaluating policy influence’. ODI Briefing Note,(February).
- OECD (2006). Where immigrant students succeed. A comparative review of performance and engagement in PISA 2003. OECD, Paris.
- OECD (2007 a). Jobs for Immigrants (Vol. 1): Labour market integration in Australia, Denmark, Germany and Sweden. OECD, Paris.
- OECD (2007b). International Migration Outlook. OECD, Paris OECD (2008). Jobs for Immigrants (Vol. 2): Labour market integration in Belgium, France, the Netherlands and Portugal. OECD, Paris. Situation report on international migration in East and South-East Asia. Bangkok: International
- Organization for Migration, Regional Office for Southeast Asia; (2008). Available from: http://publications.iom.int/system/files/pdf/situation_report.pdf [cited 2017 Oct
- 17]. Stein, D., & Valters, C. (2012). Understanding ‘theory of change’ in international development: A review of existing knowledge. Asian Institute and the Justice and Security Research Programme. Retrieved from http://www.theoryofchange.org/wp-content/ uploads/toco_library/pdf/UNDERSTANDINGTHEORYOFChangeSteinValtersPN. pdf