รวยกี่โมง ? Young Gen Crisis : เมื่อการทำงานหนักของคนรุ่นใหม่ไม่สามารถสร้างตัวได้เหมือนรุ่นก่อนอีกต่อไป

“ขยัน ๆ สิ โตไปจะได้รวยเหมือนคนอื่นเขา”

“อายุ 25 ปี แล้วมีงานทำหรือยัง ได้เงินเดือนเท่าไหร่”

“อายุ 30 ปี ต้องมีบ้านมีรถเป็นของตัวเองสิ”

คุณเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ไหม? ถ้าเคยได้ยินแล้วเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า ทำไมสิ่งที่เราทำอยู่ไม่รวยสักที ขอให้คุณเลิกโทษตัวเอง และหันมาตั้งคำถามกับระบบสังคมปัจจุบันที่ทำให้เราไม่สามารถสร้างตัวได้เหมือนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ในยุคก่อน ไม่ใช่เราไม่ขยันหรือไม่พยายาม แต่สังคมต่างห่างที่กำลังกดให้การสร้างตัวของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันเป็นไปอย่างยากลำบาก

เมื่อกล่าวถึงการสร้างตัวของคนรุ่นใหม่ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าพวกเขามาพร้อมสิ่งที่เรียกว่า“ความหวัง” เป็นแรงขับเคลื่อนหนึ่งที่ทำให้คน ๆ หนึ่งลงมือกระทำบางสิ่งเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามความหวังนั้นมาพร้อมกับความไม่แน่นอน ทุกคนล้วนมีโอกาสผิดหวังและสมหวังทั้งสิ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มคนส่วนใหญ่เกิดความผิดหวังในเรื่องที่คล้ายกัน เราควรมองให้ลึกลงไปถึงใต้เงาเบื้องลึกของความผิดหวังนั้น ไม่ได้เป็นเพียงความคิดและความรู้สึกส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางสังคมที่เราอาศัยอยู่จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับการเมือง ระบบเศรษฐกิจ ประเพณีวัฒนธรรม และความเชื่อร่วมด้วย

ปัจจัยสำคัญในโครงสร้างทางสังคมที่ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ไม่สามารถสร้างตัวได้เหมือนคนยุคก่อน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านั้นคือ ระบบเศรษฐกิจและการเมือง ย้อนกลับไปในอดีตช่วงประมาณ 30 – 40 ปีก่อน มีเงิน 50 บาท การรับประทานมื้อเที่ยงเราสามารถซื้อข้าวได้ 1 จาน น้ำหวาน 1 แก้ว ขนมหวาน 1 อย่าง และอาจจะมีเงินเหลือเก็บอีก 10 – 20 บาท แต่ในปัจจุบันเงิน 50 บาท อาจไม่เพียงพอสำหรับอาหาร 1 มื้อโดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง จากรายงงานของกระทรวงแรงงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  (ส.อ.ท.) แสดงให้เห็นว่า  ตลอด 30 – 40 ปีที่ผ่านมาคนไทยแบกรับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 400 – 500%  โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีหลัง ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 57.77% เงินเดือนเด็กจบใหม่เพิ่มขึ้น 25% แต่ค่าครองชีพหรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันกลับเพิ่มขึ้นสูงถึง 100 – 150% เห็นได้ว่ารายได้กับค่าครองชีพในปัจจุบันสวนทางกันเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มสวนทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่แปลกใจที่เราจะเห็นว่าคนรุ่นใหม่นั้นสร้างตัวได้ยากกว่าคนยุคก่อน เพราะแค่เพียงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอาจทำได้แค่เพียงการดำรงชีพเท่านั้น

แล้วการเมืองสำคัญอย่างไรต่อการสร้างตัวของคนยุคใหม่? ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เมื่อไหร่มีข่าวว่ารัฐจะประกาศขึ้นค่าแรง ข้าวของเครื่องใช้มักจะขึ้นราคาล่วงหน้า ซึ่งท้ายสุดก็ยังไม่พอกับค่าครองชีพในการดำรงชีวิตปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าการออกนโยบายต่าง ๆ ของรัฐนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเราทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องอาศัยอยู่ในสังคมอีกยาวนาน การออกนโยบายต่าง ๆ โดยที่ไม่รัดกุมย่อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและสร้างความเสียหายเรื้อรังซึ่งทำให้ประชาชนจำเป็นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่ไม่รู้ตัวเป็นจำนวนมาก เช่น หนี้สาธารณะ เป็นต้น 

คนรุ่นใหม่มองเห็นและตระหนักเรื่องการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อตัวพวกเขาเอง เห็นถึงความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ  เกิดขึ้น มองเห็นว่าการทำงานหนักในเมืองไทยอาจไม่คุ้มค่าแรงที่เสียไป และไม่สามารถสร้างตัวได้จริง ๆ ส่งผลให้เกิดกระแสย้ายประเทศ หรือการแสดงออกทางการเมืองต่าง ๆ ของคนรุ่นใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นการต่อต้านรัฐหรือการคิดว่าประเทศอื่น ๆ ดีกว่าเมืองไทยอย่างที่คนยุคก่อนจำนวนหนึ่งมองหรือคิด แต่คนรุ่นใหม่เหล่านี้กำลังลงมือทำและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ “ความหวัง” ของตนเองประสบความสำเร็จและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

ท้ายสุดการแก้ปัญหาที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถก้าวข้ามวิกฤติ (crisis) ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา และให้คนรุ่นใหม่รู้สึกกลับมามีหวังในสังคมไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่ปัจจุบันร่วมด้วย 

การที่พวกเขาทำงานหนักแล้วไม่สามารถสร้างตัวได้เหมือนคนยุคก่อน การที่พวกเขารู้สึกสิ้นหวังกับการทำงานและค่าแรงในเมืองไทย ไม่ใช่พวกเขาไม่ขยันหรือไม่สู้งาน แต่การเมืองและโครงสร้างสังคมล้วนส่งผลต่อวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ถ้ากล่าวว่าคนรุ่นใหม่คือกำลังสำคัญของประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต  แล้วปัจจุบันการเมืองและโครงสร้างสังคมเอื้อให้พวกเขาเติบโตหรือสร้างตัวแล้วหรือยัง ?

บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

อ้างอิง

https://www.bangkokbiznews.com/social/878655

https://moneyandbanking.co.th/2023/36279/

https://www.spu.ac.th/activities/8935

เกี่ยวกับผู้เขียน

Wannida_about2
วรรณิดา เครือมณี
ผลงานชิ้นอื่นๆ

นักวิชาเกิ๊น และนักเขียนยามสันโดษ ผู้เสพสุขผ่านเสียงดนตรี คาเฟอีนในร่างกายคือเสียงเพลง เพื่อนคลายเหงาคือหนังสือ จิตวิญญาณอยู่บนขุนเขา ปัจจุบันกำลังออกเดินทางตามหาตัวตนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

+1

Categories

เรื่องที่คล้ายกัน

guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments